![]() |
สำหรับผู้ที่กำลังตกเป็นทาสแมวควรอ่านให้ดี จะพาทุกคนไปรู้จักกับ โรคขี้แมวขึ้นสมอง ซึ่งมีตัวการมาจากน้องเหมียวในบ้านคุณ แต่จะมาจากสาเหตุอะไร และมีอาการร้ายแรงต่อมนุษย์ หรือผู้เลี้ยงมากน้อยแค่ไหนนั้น
โรคขี้แมวขึ้นสมอง คืออะไร
โรคขี้แมวขึ้นสมอง (Toxoplasmosis) คืออาการติดเชื้อที่มาจากปรสิต หรือโปรโตซัว ที่มีชื่อว่า Toxoplasma gondii ซึ่งพบได้มากที่สุดในอุจจาระของแมว หรือเนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านการปรุงสุก เช่น เนื้อหมู เนื้อแกะ และเนื้อกวาง เป็นต้น ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อ สมอง ตา หัวใจ และปอดได้ โดยสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้คนเกิดการติดเชื้อปรสิตในอุจจาระแมวนั้น มีดังต่อไปนี้
สัมผัสกับอุจจาระแมวอยู่บ่อยครั้ง เช่น การทำความสะอาด เก็บอุจจาระแมว ทานอาหารที่มีการปนเปื้อนของปรสิต โดยไม่ผ่านความร้อน หรือการล้างเนื้อสัตว์ให้สะอาด ใช้อุปกรณ์ที่มีการสัมผัสกับปรสิต และไม่ทำความสะอาดด้วยน้ำร้อน หรือเข้าตู้อบเพื่อฆ่าเชื้อ รับการปลูกถ่ายอวัยวะกับผู้ที่มีเชื้อปรสิตอยู่ภายใน เช็กอาการเบื้องต้นของ โรคขี้แมวขึ้นสมองกันเถอะ
สำหรับคนส่วนใหญ่โรคนี้อาจแสดงออกมาในรูปแบบคล้ายคลึงกับอาการไข้หวัดใหญ่ ที่อาจทำให้มีไข้ ปวดหัว และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือในบางครั้งก็อาจไม่แสดงอาการใดๆ ออกมาเลย มากไปกว่านั้น ถ้าผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแออยู่แต่เดิมได้รับเชื้อปรสิตเข้าไป อาจมีปฏิกิริยารุนแรงขึ้นมาอีก ต่างจากระดับของผู้คนทั่วไป นั่นก็คือ
ระบบประสาทมีการทำงานที่เสื่อมถอยลง ประสานงานกับส่วนต่างๆ ได้ไม่ดี ด้านการมองเห็นเปลี่ยนแปลง จอประสาทตาอักเสบ เกิดเห็นเป็นภาพทับซ้อน และไม่ชัด สมองอักเสบ อาการปวดศีรษะ ชัก ปอดติดเชื้อ
แต่สำหรับสตรีตั้งครรภ์แล้ว อาจทำให้เป็นอันตรายต่อทารกยามแรกเกิดเป็นอย่างมาก เพราะอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันลดลง หรือทำงานไม่เต็มที่ มีอาการชัก ม้ามโต สีผิวเหลืองจนถึงขั้นเป็นดีซ่าน และเกิดการติดเชื้อของดวงตาอย่างรุนแรง อีกทั้งยังส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ทางด้านสุขภาพอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคตได้อีกด้วย
วิธีป้องกันตนเองจากโรคขี้แมวขึ้นสมอง
แน่นอนว่าวิธีป้องกันเบื้องต้นก็คงไม่พ้นเรื่องของการรักษาความสะอาด ซึ่งในขั้นตอนการเก็บอุจจาระของแมวทุกครั้งคุณควรสวมถุงมือก่อนเสมอ และหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจเก็บอุจจาระแมวแล้ว โปรดล้างมือด้วยด้วยสบู่ให้สะอาดทุกครั้ง อีกทั้งคุณควรนำอุจจาระแมวใส่ภาชนะที่ปิดสนิท และนำไปทิ้งไว้นอกบ้าน ให้ไกลจากบุคคลในครอบครัว
นอกเหนือจากการดูแลเรื่องการชำระล้างกระบะทรายแมวแล้ว คุณควรป้องกันพฤติกรรมของตนเองทางด้านอาหารตามคำแนะนำของ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ประเทศสหรัฐอเมริกา เช่น การล้างเนื้อสัตว์ หรือปรุงสุกเนื้อสัตว์นั้นในความร้อนที่มีอุณหภูมิสูงประมาณ 145-165 ฟาเรนไฮต์ หรือ 63-74 องศาเซลเซียส ก่อนมารับประทานเสมอ รวมทั้งล้างอุปกรณ์ทำอาหารทุกประเภทหลังจากนำไปสัมผัสกับเนื้อสัตว์โดยผ่านความร้อน ก่อนเก็บใส่ภาชนะ
ที่มา:sanook
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น