วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2562

MPS ปวดเกร็งกล้ามเนื้อ-เยื่อพังผืด อันตรายยิ่งกว่า "ออฟฟิศซินโดรม"

คนทำงานส่วนใหญ่จะรู้จักอาการออฟฟิศซินโดรม ซึ่งจะมีอาการปวดเฉพาะจุด เช่น คอ บ่า ไหล่ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าอาการเหล่านี้เป็นเพียงกลุ่มย่อยของ MPS (Myofascial Pain Syndrome) หรือ อาการปวดเกร็งกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด  ลักษณะของอาการจะคล้ายกับออฟฟิศซินโดรม แต่อาการของ MPS จะมีอาการปวดแบบกว้างกว่า และมีความรุนแรงมากกว่า จึงเป็นภัยร้ายที่น่ากลัวกว่าออฟฟิศซินโดรม

วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2562

หน้ามืด-บ้านหมุน หลังก้มตัวหรือก้มหน้า เกิดจากอะไร?

เชื่อว่าหลายคน เคยมีอาการ เวียนหัวบ้าง บ้านหมุนบ้าง ก้มตัวแล้วเวียนหัว เลยขึ้นแล้วบ้านหมุน แต่อาการเวียนศีรษะบ้านหมุนมักเป็นอยู่ในช่วงสั้นๆ และหาสาเหตุไม่ได้ อย่าชะล่าใจคิดว่าไม่เป็นอะไรนะ เพราะอาการเวียนหัวเหมือนบ้านหมุนอาจเป็นอาการเริ่มแรก หรือสัญญาณเตือนของโรคที่ซ่อนอยู่ในร่างกายเราได้

วันพุธที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2562

5 โรคแทรกซ้อนอันตราย จาก “โรคเบาหวาน”

โรคเบาหวาน เป็นโรคประจำตัวของใครหลายคนที่มีทั้งสาเหตุจากกรรมพันธุ์ และพฤติกรรมในการรับประทานอาหารที่ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงอยู่ตลอดเวลาเป็นเวลานาน หากไม่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ อาจเสี่ยงอันตรายทั้งจากตัวโรคเบาหวานเอง ที่อาจทำให้ช็อค เป็นลม หมดสติ และอันตรายจากโรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

วันศุกร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2562

ปวดท้องแบบไหน “ไส้ติ่ง” ถามหา?

“ปวดท้องมากขนาดนี้ เป็นไส้ติ่งหรือเปล่า?” เราอาจจะเคยได้ยินคำถามแบบนี้กันมาบ้าง เมื่อตัวเราเอง หรือคนที่อยู่ข้างๆ เรามีอาการปวดท้องมากๆ แต่อาการปวดท้องเป็นอาการเบื้องต้นของหลายๆ โรค แบบไหนถึงจะเป็นอาการปวดท้องไส้ติ่งกันนะ

วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2562

7 วิธีป้องกัน "ไข้หวัดใหญ่" ทำได้ทุกเพศทุกวัย


ไข้หวัดใหญ่ (Influenza หรือ flu) คือโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ ทำให้มีอาการ เช่นน้ำมูกไหล ไอจาม เจ็บคอ ที่รุนแรงและเฉียบพลันกว่าไข้หวัดธรรมดา แม้ไข้หวัดใหญ่จะเป็นโรคที่หายได้ด้วยตัวเอง แต่หากเป็นแล้วก็อาจต้องใช้เวลาพักรักษาตัวหลายสัปดาห์กว่าจะหายเป็นปกติ และสำหรับผู้ที่เป็นหอบหืด โรคหัวใจ โรคเบาหวาน หรือมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หากคุณเป็นไข้หวัดใหญ่ขึ้นมา อาการอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว ทางที่ดีคุณจึงควรป้องกันไม่ให้เป็นโรคนี้ตั้งแต่แรก ด้วยวิธี ป้องกันไข้หวัดใหญ่ ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงเหล่านี้

1. ฉีดวัคซีน ป้องกันไข้หวัดใหญ่

วิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ดีที่สุดก็คือ การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี เนื่องจากไวรัสไข้หวัดใหญ่มีการพัฒนาสายพันธุ์อยู่เสมอ ไข้หวัดใหญ่ที่แพร่ระบาดในแต่ละปีจึงสามารถเปลี่ยนสายพันธุ์ได้ตลอด ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC) แนะนำว่าผู้ที่มีอายุเกิน 6 เดือนทุกคนสมควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และควรรีบฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด ไม่ควรรอให้ถึงช่วงไข้หวัดใหญ่ระบาดแล้วจึงค่อยไปฉีด เพราะหลังจากฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้ว ร่างกายจะต้องใช้เวลาประมาณ 10-14 วัน ถึงจะมีภูมิคุ้มกันไข้หวัดใหญ่ อย่างไรก็ตาม วัคซีนไข้หวัดใหญ่ส่วนมากจะมีโปรตีนไข่ไก่ผสมอยู่เล็กน้อย ฉะนั้นหากคุณแพ้ไข่ควรแจ้งให้คุณหมอทราบก่อนที่จะฉีดวัคซีน

2. ไอจามอย่างถูกวิธี

คุณควรใช้กระดาษทิชชู่ปิดปากและจมูกขณะไอจาม และทิ้งลงถังขยะทันทีที่ใช้เสร็จ หรือถ้าไม่มีกระดาษทิชชู่ ก็สามารถไอจามใส่ข้อพับหรือแขนเสื้อด้านบนแทนได้ แต่ต้องไม่ลืมล้างมือให้สะอาด เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่ไปสู่ผู้อื่น เพราะเชื้อโรคที่แพร่กระจาย อาจไม่ใช่แค่ไข้หวัดใหญ่ แต่ยังรวมไปถึงโรคระบบทางเดินหายใจรุนแรง เช่น โรคติดเชื้อทางเดินหัวใจจากไวรัสอาร์เอสวี (Respiratory Syncytial Virus) โรคไอกรน โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือโรคซาร์ส (SARS)

3. ล้างมือบ่อยๆ

ในแต่ละวัน มือของเราสัมผัสสิ่งต่างๆ มากมาย การล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ โดยควรล้างมือด้วยสบู่และน้ำอย่างน้อย 15 วินาที เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและเชื้อโรคต่างๆ รวมไปถึงเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ด้วย แต่หากคุณไม่สะดวกล้างมือด้วยน้ำและสบู่ ก็สามารถใช้เจลล้างมือแทนได้ เจลล้างมือจึงถือเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ควรพกติดตัวอยู่เสมอ เพราะช่วยฆ่าเชื้อโรคได้รวดเร็ว และหยิบใช้ได้ทุกเวลาที่ต้องการ

4. หลีกเลี่ยงฝูงชน

ไข้หวัดใหญ่ถือเป็นโรคที่ติดต่อที่แพร่ระบาดได้ง่ายมาก ในช่วงที่มีไข้หวัดใหญ่ระบาด คุณจึงควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ชุมนุมชน แต่หากเลี่ยงไม่ได้จริงๆ เช่น ต้องใช้บริการรถสาธารณะ ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อลดโอกาสในการติดโรค

5. พักผ่อนอยู่บ้านเมื่อป่วย

หากคุณป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่เข้าแล้ว ควรอยู่แต่ในบ้านอย่างน้อย 24 ชั่วโมง หรือทางที่ดีควรพักผ่อนอยู่บ้านให้หายสนิทก่อน จึงค่อยกลับไปเรียนหนังสือหรือทำงานตามปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองแพร่เชื้อโรคสู่คนอื่น และไม่ให้ตัวเองติดเชื้อโรคอื่นเพิ่มขึ้นเพราะอยู่ในช่วงที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

6. รักษาความสะอาดและดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง

การดูแลรักษาอาคารบ้านเรือน ฆ่าเชื้อโรค และทำความสะอาดให้ถูกสุขอนามัยอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่มีคนป่วย สามารถช่วยลดโอกาสแพร่กระจายเชื้อโรคได้ นอกจากนี้คุณยังควรดูแลรักษาสุขภาพกายใจให้แข็งแรง ด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ ลดเครียด ดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ กินอาหารที่มีประโยชน์ เพราะเมื่อร่างกายแข็งแรง โอกาสป่วยเป็นโรคต่างๆ ก็น้อยลง

7. ไม่สูบบุหรี่

การสูบบุหรี่สามารถทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ได้มากมาย เช่น ทำให้เป็นมะเร็ง ทำให้มีริ้วรอยก่อนวัย นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่ยืนยันว่าผู้ที่สูบบุหรี่จะเป็นไข้หวัดใหญ่บ่อยกว่าผู้ที่ไม่ได้สูบ และหากเป็นไข้หวัดใหญ่แล้ว ยังมีโอกาสติดเชื้อรุนแรงและมีโอกาสตายจากโรคไข้หวัดใหญ่สูงกว่าผู้ที่ไม่ได้สูบบุหรี่ด้วย การงดสูบบุหรี่ หรือเลิกบุหรี่ไม่เพียงแต่จะช่วยป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ แต่ยังลดโอกาสเกิดโรคต่างๆ ได้อีกด้วย
ที่มา:sanook