วันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2564

4 สัญญาณอันตราย “ความดันโลหิตสูง” พร้อมวิธีลดความดันที่ได้ผล

 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เหมาะสม ช่วยลดความเสี่ยง ห่างไกลโรคความดันโลหิตสูงได้

โรคความดันโลหิตสูง อันตรายเงียบ

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคความดันโลหิตสูง ได้ชื่อว่าเป็นเพชฌฆาตแห่งความเงียบ เนื่องจากส่วนใหญ่มักไม่มีอาการหรืออาการแสดงให้เห็น แต่มักตรวจพบโดยบังเอิญ 


สัญญาณอันตราย “ความดันโลหิตสูง”

ในกรณีที่มีความดันโลหิตสูงมากผู้ป่วยอาจจะมีอาการที่แสดงให้เห็นได้ ดังนี้


  1. ปวด หรือมึนศีรษะ บริเวณท้ายทอย 
  2. วิงเวียนศีรษะ
  3. แน่นหน้าอก 
  4. คลื่นไส้ อาเจียน 

อันตรายของความดันโลหิตสูง หากไม่รีบรักษา

ผู้มีความดันโลหิตสูงเรื้อรังที่ไม่สามารถควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติเป็นระยะเวลานานอาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่ออวัยวะสำคัญ เช่น 


  • กล้ามเนื้อหัวใจหนาตัว 
  • หลอดเลือดแดงแข็ง 
  • จอประสาทตาเสื่อม 
  • ไตเสื่อม 
  • โรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายอย่างยิ่ง 
  • เสี่ยงต่อการเกิดอัมพาต 
  • โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด 
  • ไตวาย
  • โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบตัน
  • หัวใจล้มเหลว

หากมีภาวะความดันโลหิตสูงนานๆ ไม่ได้รับการรักษาอย่างสม่ำเสมอและถูกต้องเหมาะสม หัวใจต้องทำงานหนักมากขึ้น กล้ามเนื้อของหัวใจจะหนาขึ้น หัวใจจะโตขึ้น อาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดห้องบนเต้นพริ้ว (Atrial Fibrillation) หรือเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้ ดังนั้น เราควรให้ความสำคัญกับการเกิดภาวะความดันโลหิตสูง การป้องกันและการรักษา เพื่อที่จะสามารถชะลอการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ


ความดันโลหิตเท่าไร จึงเรียกได้ว่าความดันโลหิตสูง

นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคความดันโลหิตสูง เป็นภาวะโรคที่ตรวจพบว่าค่าความดันโลหิตอยู่ในระดับที่สูงกว่าปกติ คือ มีค่าความดันตัวบน (systolic: ค่าความดันเลือดในขณะที่หลอดเลือดหัวใจบีบตัว) สูงกว่า 140 มิลลิเมตรปรอท และความดันตัวล่าง (diastolic : ค่าความดันเลือดในขณะที่หลอดเลือดหัวใจคลายตัว) สูงกว่า 90 มิลลิเมตรปรอท 


ปัจจัยเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง

ความดันโลหิตสูงมักจะพบร่วมกับปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ของกลุ่มอาการผิดปกติทางเมตาบอลิซึม เช่น 


  • ไขมันในเลือดสูงหรือระดับน้ำตาลในเลือดสูง 
  • ขาดการออกกำลังกาย 
  • โรคอ้วน 
  • มีภาวะเครียดเรื้อรัง 
  • ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 
  • สูบบุหรี่ 
  • รับประทานอาหารที่มีรสเค็มจัดเป็นประจำ

นอกจากนี้ โรคความดันโลหิตสูงอาจมีสาเหตุมาจากภาวะไตวาย เนื้องอกของต่อมหมวกไต โรคของต่อมไทรอยด์หรือต่อมพาราไทรอยด์ โรคทางเดินหายใจถูกอุดกลั้นขณะนอนหลับหรือการใช้ฮอร์โมนบางชนิด 


วิธีรักษาโรคความดันโลหิตสูง

ในการรักษาผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงควรมีการประเมินความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ และผลกระทบต่ออวัยวะต่างๆที่เป็นผลมาจากความดันโลหิตสูงเป็นระยะเวลานาน เช่น กล้ามเนื้อหัวใจหนา ภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง ไตเสื่อมหรือมีโปรตีนรั่วในปัสสาวะ และจอประสาทตาเสื่อมจากความดันโลหิตสูง 


ดังนั้น เพื่อป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูงเราควรดูแลตนเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การใช้ชีวิตให้เหมาะสม โดยการใส่ใจ 3 อ. คือ


  • อ.อาหาร กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพหรือ DASH Diet (Dietary Approaches to Stop Hypertension Diet) คือ ลดการบริโภคอาหารที่มีเกลือโซเดียม ไขมันอิ่มตัว ไขมันรวมและคอเรสเตอรอลลง และเพิ่มการรับประทานที่มีใยอาหาร โปรตีน แคลเซียม แร่ธาตุต่างๆอย่างโปแตสเซียมและแมกนีเซียม ได้แก่ ผัก ถั่ว ผลไม้ ธัญพืชที่ไม่ผ่านกระบวนการขัดสี (Whole Grains) ปลา ไขมันไม่อิ่มตัว และลดการบริโภคเนื้อแดง งดการรับประทานน้ำหวานและน้ำอัดลม
  • อ.ออกกำลังกาย ลดเวลานั่ง เพิ่มเวลายืน ยืดเวลาเดิน ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ให้หัวใจ ปอด ระบบหมุนเวียนโลหิตแข็งแรง ควบคุมน้ำหนักตัว และควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 3-5 ครั้ง/สัปดาห์
  • อ.อารมณ์ ทำอารมณ์ให้แจ่มใส ไม่เครียด

นอกจากนี้ ควรงดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ฉะนั้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หันมาใส่ใจสุขภาพ รู้จักออกกำลังกายให้เหมาะสม และรู้จักเสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดีเป็นหนทางสู่การมีสุขภาพดี ย่อมช่วยให้ตัวเราห่างไกลจากโรคความดันโลหิตสูงได้เช่นกัน

ที่มา:sanook

2 ความคิดเห็น:

  1. รับทำเว็บไซต์ พะเยา สร้างโอกาสให้คนรู้จักสินค้าและบริการแบบก้าวกระโดด ด้วยการสร้างเว็บไซต์ที่ Wynnsoft Solution เรามีเว็บไซต์ให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เรารับทำเว็บไซต์โรงแรม รับทำเว็บไซต์ขายของ ไปจนถึงเว็บไซต์สำเร็จรูป WordPress ระบบใช้งานง่าย ดีไซน์สวยงามตรงตามความต้องการ ไม่ทิ้งบริการหลังการขาย

    ตอบลบ